แต่ชะนีไทยใจ Strong!! ปล่อยแบนข้ามวัน ไม่ได้..มันจะไม่ดี กลัวหน้ายางเสีย(ทั้งที่รถก็5ปีละนะ 555 ยื้อยางลากยาวมาถึงขนาดนี้ มันคงอยากร้องไห้บอก ปล่อยกรูไปเถอะ!!)
ณ จุดนี้ อะไรที่ไม่เคยทำ เราต้องลอง.. อยากรู้อยากเห็นอะไร ถามคะ รออะไร.. สาระทั้งนั้น..
จัดเลย..หาคู่มือรถ เปิดหน้ายางและวิธีการเปลี่ยนยาง สำคัญ!! คู่มือรถก็ต้องพกติดรถไว้นะ.. ฉุกเฉินช่วยได้จริงๆ
ยางอะไหล่อุปกรณ์อยู่หลังรถคะ เปิดมันออกมา.. (ไม่รู้ว่าทุกรุ่นจะอยู่ที่เดียวกันหมดมั้ยนะ?)
เปิดออกมาแล้ว ทุกสิ่งอย่างมันจะโดนล๊อคไว้ด้วยน๊อตอะไรต่างๆคะ สิ่งที่ต้องทำคือ หาซองเครื่องมือ(ลูกศรสีแดง) แล้วขัน(วงกลมสีเหลือง)มันออกมาซะ เพื่อเอาแม่แรงและล้ออะไหล่ออกจากรถ
พอเอาอุปกรณ์ออกมา ตกใจสิคะ!! แม่แรง...ต้องเอาไปวางไว้ตรงไหน 555 เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นอะ
ก่อนดันแม่แรงยกล้อขึ้นไป เราต้องหมุนน๊อต 4 ตัวเอาล้อเก่าออกจากรถก่อนนะ(1) ณ.จุดนี้ชะนีน้ำหนักน้อยคงลำบากเพราะน๊อตเค้าขันล๊อคจากศูนย์มามันจะแน่นมาก เลยต้องหาคนมาช่วยคะ(แต่จริงๆถ้าเหยียบปลายๆจิงๆ ชะนีคิดว่าอาจทำได้เองนะ ไว้ไปลองตอนเปลี่ยนล้อครึ่งหน้า) หลังจากเอาน๊อตและล้อออก ก็หมุนแม่แรง(2)ให้มันยกรถขึ้นไปเลยจ้า
หลายคนหรือรถเก่าๆเขาจาเอาไปไว้คานหลังใต้ท้องรถใช่มั้ย? แต่มันลำบากต้องมุดตัวเข้าไป(นี่ลองละไง นอนหงายสไลด์เข้าไปเลยจ้า อย่างแมนๆ เสื้อก็เปื้อน แต่ feel good มาก 555 แต่สรุปไม่มีแรงหมุนแม่แรงให้มันดันรถขึ้นไปจ้า) สมัยนี้เค้าเอาไว้ตรงหน้าล้อข้างรถจ้า(กรณีล้อหลัง) อีนี่ถึงกับบางอ้อ..
จากนั้นก็จัดแจงใส่ล้ออะไหล่สำรองเข้าไปแทน เก็บยางที่แบนพร้อมอะไหล่เข้าหลังรถ แล้วก็ขับไปร้านให้ช่างจัดการต่อไป..
*ยางอะไหล่รถ ตั้งแต่ซื้อรถมา ควรเช็คทุกปี นำไปเติมลมยางบ้าง แล้วเอามาเก็บไว้ที่เดิม เวลายามฉุกเฉินจะได้ใช้ได้ทันที (ตั้งแต่ซืื้อรถมา 5 ปี ชะนีไทยไม่เคยขันออกมาเติมเลย ลมมันซึมนะ พอเอาออกมาใช้จริง เกือบได้ไปแวะเติมเหมือนกัน แย่!)
การเลือกร้าน เอาที่ใกล้บ้านไว้ใจได้ และเพลานั้น ก็หลายโมงยามแล้ว.. ตัวเลือกที่แจ่มสุดในแถบนั้น B-Quick คะ ดูในเน็ตบอกเปิดถึง 5 ทุ่มเลย.. มีบริการหลังการขายด้วย จัดไป..
เอาเข้าไปจอดในซองรถ บอกว่ายางแบน พี่เขาก็บอกเดี๋ยวไปลงทะเบียนประวัติแล้วรอเช็คยาง เดี๋ยวเค้าจะมาแจ้งอีกที
สักพัก พี่เขาพาไปดู อ่างน้ำที่มีล้อเราแช่อยู่ข้างใน ตกใจสิคะ!! เชี่ย!! งานงอกแล้ว!! ฟองบุ๋งๆเลยคร่าาาา เขาบอกว่า ไม่มีตะปูเลยนะ ยางมันกรอบแตกครับ!! สิ้นอายุไขการใช้งาน..
คำถามแรกสวนกลับเลย พี่แบบนี้ปะได้มั้ย? (ยังงกได้อีกนะ 55) ถ้าปะไปแล้วมันจะอยู่ได้อีกกี่เดือน?
เขาว่าปะได้ แต่ผมไม่แนะนำ คือ ยางน้องก็นานมากละเนาะ(5ปีเต็มเลยจ้า ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่ออกศูนย์) เดี๋ยวพี่จะพาไปดูยางหน้าอีกเส้น ใกล้ละเหมือนกัน ขับไปอันตราย.. พอไปดู โอ้โห... แตกรายงาเลยจ้า ดีไม่ขับไปจนแตกกลางถนนขณะขับ
*อายุยางส่วนใหญ่อยู่ที่ 2-3.5ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานอีกที ถ้าขับในเมืองไม่ได้ออกต่างจังหวัด 3ปีกว่าสบายๆ แต่ถ้าออกต่างจังหวัด ลงโคลน หิน ขึ้ยลงเขา ก็อายุสั้นได้อีก
นาทีนั้น งานแฟ้มดำ ก็มาเลยจ้า...><มาเป็นตาราง รุ่น ยี่ห้อ รอคาเต็มต่อเส้น ราคาผ่อนต่อเดือน บัตรที่เข้าร่วมรายการ อืม!!
Thunder
Roadstone
Dunlop
Goodyear
Michelin
Bruidgestone
(จริงๆยี่ห้อยางมีเยอะกว่านี้นะ แต่ที่นี่มีเท่านี้)
ยางราคาต่อเส้น ตั้งแต่ 25xx-33xx ไล่บนลงล่าง ราวนี้ คุณสมบัติ ราคา ยี่ห้อ ต้องถามร้านหรือไม่ก็ศึกษาก่อนซื้อนะ ว่างๆถ้ายางเพือนๆ 2 3 ปีละ ก็เล็งๆยี่ห้อรุ่นไว้ได้เลย
งานนี้ไม่มีการเตรียมใจ ไม่มีการบริหารการเงินล้วงหน้า มันมาแบบกระทันหันไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ..
พี่คะ แนะนำรุ่นไหนดี เอาแบบเกาะหนึบ สาดโค้งไม่หลุด รีดน้ำดี ประหยัดน้ำมันบ้าง หนูขับรถทุเรศ 555 (พี่เขาขำเลยจ้า)
แต่เขาก็แนะนำ Michelin XM2 มา เขาว่า ผู้หญิงขับในเมือง ขับไม่เร็ว ประหยัดๆน้ำมันก็นี่เลยนะ ใช้กันเยอะ..
เลยบอกพี่ๆ หนูขับทุกเรศนะ ขอขีดเส้นใต้ตรง ขับทุเรศ อันนี้ใช้ดีจริงหรือ? เริ่มๆไม่เชื่อด้วยความงก ไหนๆจะเสียตังค์ทั้งทีแกรบหนี้อีก6เดือน ไม่มีเวลาเตรียมตัวหาข้อมูลก่อนเลย ดังนั้น ไม่จ่ะไม่เชื่อ 555
พี่คะ ขอเวลา research 10 นาที (ตามสบายเลยครับน้องพี่เข้าใจ)
ว่าแต่ร้านปิดกี่โมงคะ 555(5ทุ่มครับ เหลือเวลาอีก2 ชั่วโมง) แล้วงาน google ก็มา
search เลยจ้า ว่ารถยี่ห้อรุ่นเรา เค้าใช้อะไรกันมาบ้าง อันไหนว่าดีไม่ดี เทียบรถคลาสเดียวกับเราว่าเขาใช้ยางอะไรกัน เกิดอุบัติบ่อยมั้ย อะไรเงี่ย เทียบข้อดีเสีย feedback
ไปเจอ Michelin Pilot Sport3 เห็นเขาบอกว่าเกาะ!! ขับเร็วจัดไป เอาวะ เกาะก็เกาะ แต่แพงกว่าชาวบ้านเลย(แอบน้ำตาซึมเบาๆ) โทรไปหาแม่ๆบอกเอาความปลอดภัยไว้ก่อน เราขับรถเร็ว ขับทุกวัน มันคือชีวิตเรานะ
เลยถามพี่เขา พี่คะ Pilot Sport3 มีมั้ย เขาว่ามี เปิดอีกหน้าครับ แต่มัน 195/55 นะแม๊กน้อง 60 พี่ใส่ละกลัวยางบวมอมแม๊ก เอ๋อเลย ยางบวม อมแม็กคืออะไร?
*ยางบวม อมแม็ก คือ นึกภาพตามนะ ล้อแม๊กเรามันเล็กเนาะ แต่ยางอะนูนเลยล้อออกมานอกแม็กเยอะ ทำให้หน้าตาภาพรวมอาจไม่สวย (อีนี่ก็นึกภาพไม่ออกไง)
แต่ที่หามาเขาว่าใส่ได้ พี่เขาเลยบอกเดี๋ยวพี่ไปเอามาใส่ให้ดูก่อนมั้ย ละรับได้ก็จัดเลยเนาะ
ย้อนกลับไปที่แฟ้มดำ รุ่นเยอะมาก ราคาต่อเส้นนะ อย่าลืมคูณ4(จำนวนเส้นที่จะเปลี่ยน) หารด้วย จำนวณเดือนที่ผ่อน 5555
สาระ อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้ตอนซื้อยาง..
1 ปีที่ผลิตยาง
2 ขนาดยางที่เข้ากับล้อเราได้
3 การใช้งาน
ปล. นี่คือความรู้เล็กๆน้อยๆเบื้องต้นในยามซื้อยางแบบฉุกเฉินแบบนี้นะ ไม่ขอลงดีเทล เพราะลึกๆไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่นี้ 555
เส้นสีเหลือง: ปีที่ผลิตยาง ดูจากเลข 2 ตัวสุดท้าย, 16 คือยางผลิตปี2016
เส้นทีส้ม: 195 ขนาดความกว้างยาง ยางเดิม185 ถ้าใส่กันได้ก็คงมีแค่ 185 กับ 195 เพราะต้องดูว่าใส่กับแม๊กขนาดเราได้มั๊ยด้วย(รถเราเดิมๆแม๊ก 15")
เส้นสีแดง: 55 ซีรี่ย์ยาง พี่เขาว่าเอาง่ายๆ อยากได้ feel แบบเดิม เลือกเลขเท่าเดิม
เส้นสีเขียว: R15, R คือ ยางเสริมใยเหล็ก 15 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางวงล้อ เอาง่ายๆคือ ขนาดแม็ก กี่นิ้วนั่นเอง
เส้นสีน้ำเงิน: 85v, 85 คือ ค่าน้ำหนัก v คือค่าความเร็วสูงสุด km/hr ล้อที่เข้ากันได้ก็จะอยู่ราวๆค่าเดียวกัน v เหมือนกัน
เส้นสีม่วง: TREADWEAR คือ ค่าการสึกหรอของยาง ยิ่งมากยิ่งแข็ง สึกหรอช้ากว่า แต่จริงๆอยากหนึบๆค่านี้ต้องน้อยนะ แต่ขึ้นอยู่กับดอกยางอีกที(ปัจจัยหนึบมันลึกซึ้ง เข้าไม่ถึง 555)
เส้นสีดำ: TRACTION คือ ค่าความสามารถวิ่งแล้วหยุดรถในขณะพื้นเปียก ค่า AA ดีกว่า A แน่นอน
เส้นสีเทา: TEMPERRATURE คือ ค่าความต้านยางต่อความร้อนและการกระจายความร้อนยาง เลือกตามของเดิม A คือดีสุดละ
เรื่องพวกนี้ ชะนีไทยรู้ไว้ใส่บ่าแบกหามนะ.. ยิ่งโสด ต้อง Strong!! นะจ๊ะ ^^
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะ!!
ไว้มีสาระดีๆจะมาเม้ามอยเล่าสู่กันฟังใหม่จ้า ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น